พึ่งจบกันไปไม่นานกับคอนเสิร์ตของวงดนตรีร็อกระดับโลก อย่างวง Coldplay ที่มาจัดคอนเสิร์ต “Coldplay Music of the Spheres World Tour Bangkok” เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งงานนี้ไฮไลต์ทีเด็ดนอกจากวงดนตรีจะขนเพลงฮิตมาให้แฟนเพลงได้สนุกสุดเหวี่ยงกันแล้ว งานโปรดักชันจัดเต็มทั้งแสง เสียง และที่สำคัญสีตระการตาแบบขั้นสุด ในฐานะที่ The Code Color เราเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านสีและเคมีภัณฑ์แบบครบวงจร ดังนั้นบทความนี้เราจะมาช่วยถอดรหัสเผยไต๋ถึงความลับแห่งสีสันที่ซ่อนอยู่ภายในงานโปรดักชันสุดอลังการนี้ให้คุณทราบกัน
จุดเริ่มต้นตั้งแต่ที่ชื่ออัลบั้มและชื่อทัวร์ “Music of the Spheres”
ทาง Chris Martin หรือหัวหน้าวง Coldplay ได้วางคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มและงานทัวร์ครั้งนี้ว่า “เราต้องการให้ภาพรวมทั้งหมดของงานทัวร์ครั้งนี้เป็นธีมเรื่องราวจักรวาลอันเดียวดาย งานโปรดักชัน แสง และสีสันต่าง ๆ จึงเกี่ยวข้องกับอวกาศและมนุษย์ต่างดาวทั้งหมด รวมถึงผมยังคิดเสมอว่าเราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ไหนสักแห่ง” ภาพโปสเตอร์โปรโมต และธีมโปรดักชันตกแต่งสถานที่ทั้งหมดจึงมีภาพท้องฟ้าอวกาศที่เต็มไปด้วยสีดำ Starry Night และมีภาพดวงดาวและดาวเคราะห์ต่าง ๆ ที่มีสีสันสว่างสดใส ส่องสว่างเด่นด้วยตัวมันเอง เช่น โลกสีฟ้าน้ำเงิน ดาวเสาร์สีเขียว และดาวยูเรนัสสีเรนโบว์ผสมหลายสี เป็นต้น
Yellow (สีเหลือง) กับความหมายของหนึ่งในเพลงฮิตที่สุดของวง Coldplay ที่น่าสนใจ
เสน่ห์ของสี นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว สียังสามารถใช้สื่อความหมายทางอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ได้อีกด้วย ซึ่งทางวง Coldplay ก็ได้หยิบสีเหลืองมาตั้งเป็นชื่อเพลงซิงเกิ้ลที่ 2 ในอัลบั้ม Parachutes รวมถึงแสดงโชว์ให้แฟนเพลงชาวไทยได้ฟินกันด้วย เคยสงสัยกันหรือไม่ว่าทำไมต้องเป็นสีเหลือง The Code Color มีคำตอบเคลียร์ชัดให้คุณแล้ว คำตอบคือเพราะหากถอดรหัสทางจิตวิทยาของสีแล้ว สีเหลืองไม่เพียงแต่จะสื่อความหมายหรือแสดงอารมณ์ด้านความอบอุ่น ความกระตือรือร้น หรือการมองโลกในแง่บวกเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงความรักและความสุขอย่างแท้จริงได้เหมือนกัน โดยทาง Christ Martin ก็ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิดตรงนี้ว่า “สีเหลืองเป็นสีที่เรียบง่ายและให้ความรู้สึกเพราะดีเมื่อนำร้อยเรียงเป็นบทเพลง ไม่มีสีไหนที่มันบ่งบอกอารมณ์และความรู้สึกได้ดีเท่าสีเหลืองอีกแล้ว”
นอกจากสีเหลืองแล้ว ทำไม Coldplay ถึงชอบใช้ธีมสีสันฉูดฉาดในการนำเสนอภาพลักษณ์ของวง
สีสันฉูดฉาดและงานศิลปะแนว Graffiti คือสิ่งที่วง Coldplay ใช้เป็นธีมหลักในการนำเสนอภาพลักษณ์และหน้าปกอัลบั้ม Mylo Xyloto ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยทาง Chris Martin ได้ยอมรับว่า “ปกอาร์ตเวิร์กได้รับอิทธิพลมาจากงานศิลปะแนว Graffiti เพราะเราต้องการปลดปล่อยอารมณ์ผ่านการเขียนภาพและการใช้สีสันฉูดฉาดอย่างสีแดง สีเหลือง สีฟ้า สีส้ม สีเขียว ลงบนผนังหรือกำแพง เพื่อระเบิดพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์ ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ทรงพลัง”
โปรดักชันงานสีสันแสนสวย แต่เข้ากับคอนเซ็ปต์ ‘สนุกสุดมันส์ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม’
จุดแตกต่างที่ยกระดับให้ Coldplay กลายเป็นวงร็อกตัวท็อปของโลก คือการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงการรักษ์โลกที่หาได้ยากจากวงอื่น ๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งการจัดคอนเสิร์ตและการทัวร์ในครั้งนี้ ทางวง Coldplay ได้มุ่งเน้นการจัดคอนเสิร์ตโดยให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้เวทีคอนเสิร์ตที่สามารถรีไซเคิลได้ เลือกใช้ไฟฟ้าจากพลังงานสีเขียวแทนการใช้พลังงานฟอสซิล และที่ต้องยกนิ้วให้เลย คือการจัดเตรียมจอไฟ LED ที่ใช้พลังงานต่ำ ระบบแสงและสีสันในคอนเสิร์ตใช้พลังงานน้อยลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โดยอาศัยแสงไฟจากสายรัดข้อมูลที่มีสีสันสดใส สีชมพู สีแดง สีม่วง หรือสีสันฉูดฉาดที่ช่วยเพิ่มความสวยงาม และมีความส่องสว่างกว่าเฉดสีปกติ ถือเป็นไอเดียที่คิดมาเป็นอย่างดี
เสน่ห์และเอกลักษณ์ของสีสัน คือเคมีที่เข้ากันได้ดีกับเสียงเพลง โดยเฉพาะวง Coldplay ที่เราต้องปรบมือให้กับความพยายามของและแนวทางการนำสีสันมาปรับใช้ในงานโปรดักชันทุกภาคส่วนจริง ๆ บทเรียนจากงานคอนเสิร์ตครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความสนุกแสนประทับใจเท่านั้น แต่จงมองให้ลึกถึงสีสันแสนสวยและเรื่องราวความหมายที่เจ้าของวงดนตรีต่าง ๆ ตั้งใจใส่เข้าไปกันด้วย สุดท้ายนี้สำหรับเพื่อน ๆ หรือแฟนเพลง Coldplay ท่านใดที่ชื่นชอบงานสีสันสดใส อยากสั่งผลิตสีพ่นสเปรย์เฉดสีต่าง ๆ สำหรับใช้ในงานศิลปะ งานออกแบบ หรือแม้กระทั่งพ่นสีผนัง Graffiti (พื้นที่ส่วนตัวของคุณ) สามารถใช้บริการ The Code Color กันได้นะครับ เราสามารถผสมและสั่งผลิตสีพ่นสเปรย์ตามเฉดสี PANTONE และ Customize ตามที่คุณต้องการได้ สามารถพ่นได้กับทุกพื้นผิววัสดุชิ้นงาน สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ โทร. 088-896-2655