เฉดสีพาสเทล (Pastel) คือเฉดสีที่ถูกสร้างขึ้นมาจากการผสมสีหลักและสีรองบนวงล้อสี เข้ากับสีขาวในสัดส่วนจำนวนมาก เพื่อทำให้เฉดสีมีความอ่อนเบาเจือจางลง ดูมีชีวิตชีวาและสดใสเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว เฉดสีพาสเทลจะไม่ได้อยู่ในวงล้อสีดั้งเดิม เพราะเฉดสีกลุ่มนี้จะเป็นทินต์สีมากกว่าที่จะเป็นสีหลักหรือสีรอง แต่จะเป็นทินต์สีอ่อนที่อยู่ตรงกลางหรือขอบด้านนอกของวงล้อสีร่วมสมัย หรือวงล้อสีสมัยใหม่ที่มีรายละเอียดมากขึ้นกว่าแบบดั้งเดิม
สี Pastel มีความหมายตามหลักจิตวิทยาอย่างไร?
ในทางจิตวิทยา พาเลตต์สีพาสเทล (Pastel) ถือเป็นกลุ่มสีที่มีผลต่อความคิดและความรู้สึกของคน สามารถถ่ายทอดความหมายและให้ความรู้สึกในทางบวก ชวนสงบผ่อนคลาย มองโลกในแง่ดี ทั้งยังใช้สื่อถึงความรู้สึกในช่วงฤดูใบไม้ผลิ การเจริญเติบโต ช่วงให้นึกถึงช่วงเวลาวัยเด็ก ความสนุกสนาน เสียงหัวเราะ อีกทั้งสีพาสเทลยังเป็นเฉดสีที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้หญิงเช่นกัน เนื่องจากสามารถสื่อถึงความเป็นผู้หญิงได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่า เพศชายจะไม่ชื่นชอบหรือไม่ใช่สีพาสเทลในการออกแบบตกแต่งงานดีไซน์ เพียงแต่อาจจะมีสัดส่วนความนิยมน้อยกว่าเพศหญิงเท่านั้นเอง
ทำไมสี Pastel จึงได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
เฉดสีพาสเทล (Pastel) จัดเป็นเฉดสีที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นเฉดสีที่จุดมุ่งหมายในการใช้เพื่อสื่อสารและถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกได้อย่างชัดเจน ทั้งยังมีความลงตัวระหว่างความสดใส ความผ่อนคลาย และความมีชีวิตชีวา เหมาะสำหรับใช้ในงานออกแบบเพิ่มเติมเต็มสีสันให้กับชีวิตในยุคสมัยปัจจุบัน ที่ใครหลายคนต่างรู้สึกว่าโลกมีความหม่นหมอง ไม่เป็นดั่งใจคิด จึงทำให้หลายแบรนด์ชั้นนำในทุกแวดวงธุรกิจต่างนำสีพาสเทลไปปรับใช้ในงานออกแบบและการตลาดของแบรนด์ตัวเองมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์สินค้าประเภทผลิตภัณฑ์ของเด็ก ของใช้ของเล่นทุกอย่างมักเลือกใช้สีพาสเทลในการออกแบบทั้งสิ้น หรือแม้กระทั่งในทางการแพทย์ การผลิตสื่อโฆษณา Artwork สำหรับโรงพยาบาลและคลินิกต่าง ๆ ก็เลือกใช้เฉดสีพาสเทลเป็นสีหลักของผลงานเช่นกัน เพราะสีพาสเทลสามารถช่วยลดความเครียด ทำให้สื่อโฆษณาชิ้นนั้นมีความผ่อนคลาย อ่านง่าย และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายกว่าเดิม เป็นต้น
แนวทางการนำพาเลตต์สี Pastel มาใช้ในงานออกแบบ
การดึงจุดเด่นของพาเลตต์สี Pastel มาใช้ในงานออกแบบให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือการจับคู่พาเลตต์สีพาสเทลเข้ากับสีคู่ตรงข้าม เพราะสีพาสเทลที่ถูกใช้เพียงแค่เฉดสีเดียวอาจจะไม่ได้ความรู้สึกแปลกใหม่ หรือส่งผลกระทบอะไรต่องานออกแบบมากนัก แต่หากนำมาใช้ร่วมผสมผสานเข้ากับสีคู่ตรงข้ามจะทำให้การเน้นย้ำรายละเอียดของงานออกแบบเด่นชัด และโดดเด่นขึ้นมาได้ในทันที เพราะฉะนั้นเรามักจะเห็นสินค้าและงานออกแบบต่าง ๆ มักจะเลือกใช้สีพาสเทลเป็นสีพื้นหลัก และจุดที่ต้องการเน้นยำ เช่น โลโก้แบรนด์ หรือข้อความจะเลือกใช้สีคู่ตรงข้าม (สีโทนเข้ม) จะทำให้รายละเอียดส่วนนี้สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นทันที
เฉดสีพาสเทล (Pastel) ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในงานออกแบบสินค้า และงานสื่อโฆษณาเท่านั้น แต่ในส่วนของการออกแบบตกแต่งภายในบ้าน และอาคารอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ก็เป็นตัวเลือกแรก ๆ ของดีไซน์เนอร์ในยุคนี้เช่นกัน โดยเฉพาะการทาสีพื้นห้องหรือผนังด้วยพาเลตต์สีพาสเทล อย่างสีชมพูพาสเทล สีเหลืองเลมอน และสีเขียวอ่อนพิสตาชิโอ และเลือกของตกแต่งและชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่มีสี Earth Tone เพื่อให้เฉดสีในห้องมีความสมดุล ไม่ดูหนักหรือเบาจนเกินไป ก็จะได้ห้องที่ให้ความรู้สึกสงบผ่อนคลาย มีความสดใสไม่ฉูดฉาดแล้ว
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบพาเลตต์สีพาสเทล และต้องการนำไปใช้ในงานออกแบบตกแต่งสินค้าบริการ เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้กระทั่งงานตกแต่งภายใน สามารถเลือกใช้บริการ The Code Color ได้ เพราะเราคือผู้ให้บริการด้านสีที่มีความชำนาญในการผสมสีและผลิตสีตามความต้องการของลูกค้า สามารถผลิตทุกเฉดสีที่ตรงกับมาตรฐาน PANTONE แม้กระทั่งพาเลตต์สีพาสเทล เราสามารถผสมสีและผลิตให้คุณได้อย่างแม่นยำ สีคมชัดเจนในทุกมิติ สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับทีมงานของเราได้เลย